เสริมจมูก สไตล์เกาหลี :
การจะเสริมจมูกสวยหรือไม่ ปัจจัยที่มีผลนอกจากวัสดุแล้ว แพทย์มีส่วนสำคัญมาก การเสริมจมูกถือได้ว่าเป็นศิลปะชนิดหนึ่ง ขึ้นอยู่กับความรู้และฝีมือของแพทย์นั้นๆ ความเข้าใจในองค์ประกอบของหน้า ความสมดุลของใบหน้า และความต้องการของคนไข้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าเทคนิคเก่าๆส่วนใหญ่นั้นเสริมได้ไม่เป็นธรรมชาติ และไม่ได้สวยเท่าที่ควร หรือเสริมออกมาเป็นบล็อกเดียวกันหมด แหลมปลายไปแทบทะลุได้ โคนโด่งมาก แข็งทื่อ หรือเห็นเป็นขอบสองข้าง ก็คิดว่าสวยแล้ว สำหรับเทคนิคแบบใหม่ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงคือ เทคนิคการทำแบบเกาหลี ซึ่งมีความละเอียดในงานมาก
คนไข้ส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นเทคนิคแบบนี้มาก่อน คิดว่าถ้าทำก็คงได้แค่นี้เหมือนคนอื่นๆ แต่ผลออกมาดีเกินคาดแปลกใจว่าทำได้อย่างไร คำตอบคือ ไม่ใช่แค่สอดแท่งซิลิโคนแล้วเสร็จอย่างทั่วๆ ไปที่ทำกันอยู่ในตอนนี้ คลินิกจึงจัดทำข้อมูลให้ทราบถึงเนื้องาน ลักษณะงานที่ทำให้ครบทุกคำถาม และได้ตั้งราคาให้เข้าถึงได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
|
|
ผ่าตัดเสริมจมูก ซิลิโคนเกรด S-05 |
22,000.- |
ผ่าตัดเสริมจมูก ซิลิโคนเกรด S-07 |
30,000.- |
ผ่าตัดเสริมจมูก ซิลิโคนเกรด S-09 |
38,000.- |
ผ่าตัดแก้ไขจมูก ซิลิโคนเกรด S-05 |
25,000.- |
ผ่าตัดแก้ไขจมูก ซิลิโคนเกรด S-07 |
33,000.- |
ผ่าตัดแก้ไขจมูก ซิลิโคนเกรด S-09 |
41,000.- |
ตัดปีกจมูกแบบเกาหลี |
10,000.- |
ตัดปีกจมูกแบบเกาหลี (โดยไม่เสริมจมูกร่วมด้วย) |
15,000.- |
กรอกระดูกโหนกจมูกหรือฮั้มพ์ (Humpectomy) |
2,000.- |
|
* ซิลิโคนแต่ละเกรด แตกต่างกันที่ ความนิ่ม ความยืดหยุ่น ความเนียนเป็นธรรมชาติ
* ราคาดังกล่าวเป็นราคาสุทธิ เป็นราคาที่คิดคำนวนอย่างสมเหตุสมผลของราคาวัสดุ(ซิลิโคน) ที่มีคุณภาพดีเยี่ยม
|
|
|
|
|
|
|
|
เสริมจมูก ก่อนทำ |
|
เสริมจมูก หลังทำ 6 เดือน |
|
|
เทคนิคการผ่าตัด - การเสริมจมูกไม่ได้มีแต่การใช้ซิลิโคนเท่านั้น ในประเทศเกาหลีมีอีกหลาย ๆ เทคนิคเช่น
1. ตัดแต่งกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูก (Lower lateral cartilage repair) ***20,000.-
2. ใช้กระดูกอ่อนที่หูมาเสริมบริเวณปลายจมูก ( Auricular cartilage graft for tip surgery )***20,000.-
3. ใช้กระดูกอ่อนแกนกลางจมูกมาทำจมูก (septal cartilage graft)***30,000.-
|
|
ขั้นตอนการทำจมูก
1. ทำความสะอาดใบหน้า
2. เหลาแท่งซิลิโคนให้พอดีกับในหน้าและความต้องการของคนไข้
3. ฉีดยาชาเฉพาะที่จากนั้นดำเนินการผ่าตัด 20-40 นาที(แล้วแต่ชนิดการทำ) ระหว่างการผ่าตัดคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บใดๆ ทั้งสิ้น |
|
ข้อควรปฏิบัติหลังทำจมูก
1. งดทานของหมักดอง แอลกอฮอล์ อาหารทะเล วิตามิน และอาหารเสริม เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน
2. ทานยาตามที่แพทย์จัดให้ 3 วัน ส่วนขี้ผึ้งให้ทา 2 วันพอ
3. ให้นอนหงาย หัวสูงขึ้นเล็กน้อย ห้ามนอนตะแคง เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน
4. ห้ามแคะรูจมูก ห้ามรูจมูกโดนน้ำ เป็นเวลาอย่างน้อย 10 วัน อาจล้างหน้าได้แต่ให้เว้นบริเวณจมูก ทั้งนี้สามารถใช้ผ้าเช็ดแทนได้
5. หลังการผ่าตัดไปแล้ว 3 วัน หากต้องการทำความสะอาดรูจมูก สะเก็ดเลือด ให้ใช้ก้านสำลีซุปแอลกอฮอล์(ห้ามชุบน้ำเด็ดขาด) เช็ดเบาๆ ทุกวัน
6. ไหมในรูจมูกไม่ต้องถอด มันจะละลายไปเองภายใน 1 เดือน ส่วนไหมที่ปีกจมูกให้มาถอดได้ เมื่อผ่านไปแล้วอย่างน้อย 7 วัน
7. อาการบวมส่วนใหญ่จะปรากฎอยู่ประมาณ 3-4 วัน ในบางคน(เป็นส่วนน้อย)อาจจะบวมได้ถึง 1 สัปดาห์ ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ จากนั้นจมูกจะเข้าที่ 70% พอดูความสวยได้คร่าว ๆ และจะเข้าที่ 100% ภายใน 1-3 เดือน ส่วนบริเวณระหว่างหัวคิ้วจะยุบตัวลงเป็นตำแหน่งสุดท้าย การบวมอาจทำให้เข้าใจผิดว่าจมูกเอียง ทั้งนี้จมูกจะตรงเมื่อหายบวม
8. ภายใน 48 ชั่วโมงหลังการผ่าตัด ให้ประคบเย็นวันละ 3 ครั้งๆ ละ 10-15 นาที หลังจาก 48 ชั่วโมงให้ประคบร้อนวันละ 3 ครั้งๆ ละ 10-15 นาที หากประคบไม่เป็น หรือกลัวว่าจะไปโดนจมูกแล้วทำให้เอียง คนไข้ไม่จำเป็นต้องทำก็ได้
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เสริมจมูก ก่อนทำ |
|
เสริมจมูก หลังทำทันที
(สังเกตว่าไม่ได้บวมหรือเขียวช้ำเท่าไร) |
|
|
|
|
|
|
อธิบายรูป
มุมเหล่านี้มีส่วนสำคัญมาก ในการทำให้จมูกดูสวยงามเป็นธรรมชาติ ความยาวของจมูก ค่าปกติในชาวเอเชีย จะอยู่ประมาณ 45-50 มิลลิเมตร ค่าต่างๆ เหล่านี้ทางคลินิกคำนึง และให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก และมีการวัดมุม และความยาวในทุกๆคนอย่างละเอียด |
|
|
|
|
Pitfalls สำหรับการเสริมจมูกที่ไม่เป็นธรรมชาติที่พบบ่อยมีดังนี้
1.ไม่ได้วัดมุมที่ถูกต้อง ทำให้การเสริมมาดูไม่เป็นธรรมชาติ
2.เสริมจมูกโดยแท่งสั้นไป เกิดลักษณะจมูกกุด สั้น หรือ ไม่เชื่อมต่อ (Double break)
3.เสริมจมูกโดยแท่งยาวเกินไป เกิดปัญหาทะลุ หรือ จมูกงุ้ม(Polybeak deformity)
4.เหลาแท่งซิลิโคนไม่ละเอียด ใหญ่เกินไป จะเห็นเป็นขอบสองข้างชัดเจน รวมทั้งจมูกจะดูอ้วน และใหญ่เกินไป
5.จุดเริ่มของซิลิโคนผิดที่คือ เริ่มระหว่างคิ้ว ทำให้จมูกที่ได้ดูสูงและไม่เป็นธรรมชาติ เพราะมุม 135-140 องศา นั้นผิดเพี้ยนไป
6.ปลายจมูกแหลมเกินไป เกิดจากความเข้าใจผิดๆ ที่ว่าต้องการให้ปลายจมูกยกขึ้นจึงใส่แท่งซิลิโคนที่มีความหนามากเข้าไปบริเวณปลายจมูก ปัญหาที่ตามมาคือ ปลายจมูกดูแหลมเนื่องจากเกิดแรงดันจากแท่งที่ใหญ่(Tent pole effect) และอาจเกิดการทะลุในอนาคตได้ ความเป็นจริงหากต้องการให้ปลายจมูกที่แบบนั้นดูโด่งขึ้น ควรทำการซ่อมแซมเรื่องของกระดูกอ่อนบริเวณปลายจมูก รวมถึงบาง case ควรทำ graft แล้วค่อยใส่แท่งซิลิโคนที่มีความบางเข้าไป จมูกจะดูเป็นธรรมชาติที่สุด คือโด่งจากปลายจมูกคนไข้เองส่วนหนึ่งแล้วใส่แท่งบางๆเข้าไปอีก จึงไม่เกิดการทะลุอย่างแน่นอน
ทางคลินิกได้คำนึงถึงปัญหาเหล่านี้และเนื่องด้วยเทคนิคใหม่ๆ องค์ความรู้ความเข้าใจ และวิธีการที่ถูกต้อง จะขจัดปัญหาต่างๆเหล่านี้ได้ทั้งหมด
ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการเสริมจมูกคือ จินตนาการของแพทย์ กอปรกับ ความรู้ความเข้าใจในวิธีการเสริมจมูกที่ถูกต้อง |
|